
ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ริวัลโด วิเตอร์ บอร์บา เฟร์เรรา (Rivaldo) เทพลูกหนัง ตำนานแซมบ้าบราซิล
ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล บทความกีฬาที่น่าสนใจ หากเอ่ยชื่อตำนาน นักเตะทีมชาติบราซิล คงมีรายชื่อนักเตะหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เปเล่ ซิโก้ ริเวลลิโน โรนัลโด โรนัลดินโญ่ แต่ก็ยังมีนักเตะอีกหนึ่งคน ที่มักจะไม่ค่อยถูกพูดถึง มากเท่าที่ควร
ซึ่งนักเตะคนนั้นก็คือ ริวัลโด (Rivaldo) มีชื่อเต็มว่า ริวัลโด วิเตอร์ บอร์บา เฟร์เรรา ข่าววันนี้ ตัวเขาสามารถพาทีมฟุตบอล ประสบความสำเร็จ ทั้งในระดับทีมชาติ และระดับสโมสร คว้าถ้วยแชมป์มากมายหลายรายการ อีกทั้งยังได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมอีกด้วย
ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ผลงานระดับทีมชาติ เจ้าตัวพาทีมชาติคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 โดยในทีมตอนนั้น มีนักเตะคนเก่งมากมาย อย่าง โรนัลโด และโรนัลดินโญ่ การประสานงานร่วมกันทั้ง 3 คน ก็ทำได้อย่างสุดยอด โดยในนัดชิงชนะเลิศ
ที่ทีมต้องเจอกับทีมชาติเยอรมัน ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นบุคคลสำคัญ ที่ทำให้โรนัลโด ยิงประตูได้ถึง 2 ลูก และเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2 : 0 คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ ในระดับสโมสร เจ้าตัวก็สามารถพาทีมบาร์เซโลนา คว้าแชมป์ลาลีกา คว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ และคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก
แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจ ที่เจ้าตัวนั้น ไม่ค่อยได้รับการยกย่อง จากแฟนบอลในประเทศบ้านเกิด ที่มักจะชอบดูหมิ่นเกลียดชังตัวเขามาก ๆ ซึ่งในเวลานั้น เขาถูกยกให้เป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดของโลก
ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ริวัลโดจากเด็กสลัม สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวขาดแคลนอย่างมาก วิ่งเล่นฟุตบอลตามตรอกในสลัม มีร่างกายผอมบาง และเป็นโรคขาดสารอาหาร จนฟันร่วงออกจากปากหลายซี่ เขาขาโก่งและถูกเพื่อน ๆ ล้อประจำ และพ่อแท้ ๆ ของเขาก็จากเขาไป ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี
แต่ใครจะไปรู้ว่า จนกระทั้งเมื่อเขาเติบโตขึ้นมา เขาจะเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก หลังจากที่ตัวเขามีความฝัน มีความมุ่งมั่นเกินร้อย ที่อยากประสบความสำเร็จ ในกีฬาฟุตบอล
ข่าวไทยรัฐ ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ในวัย 16 ปีเจ้าตัวได้เซ็นต์สัญญา เข้าร่วมทีมแอตเลติโก เปาลิสตาโน แต่ด้วยรูปร่างที่ขาดสารอาหาร ทำให้กุนซือทีมชุดใหญ่ของสโมสร มองว่าตัวเขาเป็นนักเตะ ที่ไม่มีศักยภาพมากพอ
ที่จะเป็นนักฟุตบอลที่ดีได้เลย แต่เพื่อทำตามความฝันอันยิ่งใหญ่ เจ้าตัวก็ต้องอดทนเดินเท้า ระยะทางประมาณ 25 กิโลกมตร ไปเพื่อไปฝึกซ้อมฟุตบอลทุกวัน หัวใจของเขาแข็งแกร่งเกินคนในวัยเดียวกัน
ในปี 1991 เจ้าตัวได้เป็นนักเตะของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น อย่างทีมพัลไมรัส ตัวเขานั้นเป็นนักเตะที่เก่งมาก เก่งกว่านักเตะ ในอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเสียอีก จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีก และด้วยฟอร์มการเล่นที่เจิดจรัส เขาลงเล่นให้กับพัลไมรัส เพียงระยะเวลา 3 ปีเท่านั้น และยิงประตูไปทั้งหมด 60 ประตูอีกด้วย
โลกแห่งวงการลูกหนัง ได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของชายที่มีชื่อว่า ริวัลโด
ตำแหน่งหน้าต่ำ คือทำเลทองของเขา คือตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา เมื่อใดที่เขาได้บอล แล้วลากพาบอล เข้ามาใกล้กรอบเขตโทษ นั่นคือสัญญาณอันตรายของกองหลัง ถ้าเขาไม่จ่ายให้เพื่อนยิงประตู เขาก็จะยิงประตูเสียเอง คู่แข่งของเขา ถ้าจะสกัดบอล แย่งบอลจากเท้าของเขา ต้องแย่งให้ขาด เพราะถ้าหากเสียลูกฟรีคิก ด้วยเท้าซ้ายของเขา ก็พร้อมจะสังหารประตูอยู่ทุกเมื่อ
ความเหี้ยมโหด ในการจบสกอร์ของเขา นั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับร่างกายที่แข็งแกร่ง สมบบูรณ์แบบที่สุด และทำผลงานยิงประตูไปทั้งหมด 22 นัด จากการลงเล่น 46 นัด และพาทีมจบในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน หลังจากจบฤดูกาล สโมสรยักษ์ใหญ่มองเห็นความสามารถ ในตัวของเขา ว่าเขาคือผู้เล่นที่เก่งกาจอย่างมาก
เทพลูกหลังตำนานเเซมบ้าบราซิล
เจ้าตัวกำลังอยู่ในช่วงโชว์ฟอร์มการเล่น ที่จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกฟตบอล ตัวเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ เป็นการขับเคลื่อนเกมส์ไปข้างหน้า ได้อย่างแท้จริง
ชิงจังหวะบอลได้อย่างว่องไว ยิงไกลได้อย่างที่คิด ลูกฟรีคิกเข้าขั้นสุดยอด ในวันที่เขาโชว์ฟอร์มอย่างสุดยอด ให้แฟนบอลได้เห็น เท้าซ้ายของเขาเหมือนมีเวทมนต์ เพราะสามารถสั่งเป็นสั่งตาย ได้ในเพียงชั่วพริบตาเดียว
เพียงแค่ปีแรกเขาก็ยิงไปถึง 19 ประตู และเป็นคนสำคัญ ในการพาทีมบาร์ซา คว้าดับเบิ้ลแชมป์มาครองได้ตั้งแต่ซีซั่นแรก ด้วยการประสานงานร่วมกับ หลุยส์ ฟิโก จากนั้นในอีก 2 ปีต่อมา ตัวเขาได้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นสุดยอดนักฟุตบอล พาสโมสรคว้าแชมป์ลาลีกา และด้วยฟอร์มการเล่น ที่เป็นปรากฎการณ์
จนก็ถูกยกให้เป็นผู้เล่นสไตล์ มิราเคิลเมคเกอร์ นั่นก็คือนักฟุตบอล ที่สามารถสร้างความมหัศจรรย์ของเกมส์ฟุตบอล จนได้รับรางวัลฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า และช่วยพาทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จ จากนั้นเจ้าตัวก็ได้ย้ายไปร่วมทีมเอซี มิลาน ประเทศอิตาลี
เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม ที่ช่วยพาทีมคว้ายูแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก และด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิต เขาก็กลายเป็นนักเตะพเนจร แต่ในหลายทีมที่เจ้าตัวย้ายไปค้าแข้งด้วยนั้น เขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีก ได้เกือบทุกทีมที่ไปเล่น อย่างทีมโอลิมเปียกอส ประเทศกรีซ และเจ้าตัวก็ได้ประกาศยุติบทบาท อาชีพการเป็นฟุตบอลในวัย 40 ปี
เพราะเห็นว่าเฟร็ด เป็นแบบอย่างที่ดี ในเรื่องของความทุ่มเท และความขยันไล่กดดันคู่แข่งตลอดเวลลา และเขายังเชื่อว่าผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก คือบุคคลที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นคนที่พิเศษมาก มีวิธีการดูแลนักเตะอย่างทั่วถึง และแท็คติคการเล่น อันน่าตื่นเต้นเร้าใจ
เฮียป.คอกีฬา